Margin คืออะไร | เทรด Forex ต้องเข้าใจเรื่อง Margin

ทำความเข้าใจว่า Margin คืออะไร Free Margin คืออะไรในการเทรด Forex เทรดแบบสบายใจและปลอดภัยเมื่อทำความเข้าใจเรื่อง Margin

Margin คืออะไร?

คนที่เพิ่งเริ่มเทรดแล้วอาจจะเคยเห็นคำว่า margin ผ่านหูผ่านตามาบ้าง เพราะคำศัพท์เทคนิคในแวดวง Forex นั้นมีเยอะไปหมด แต่คนที่เพิ่งเริ่มต้นเทรดอาจจะสับสนได้ง่าย ๆ เพราะมีคำศัพท์มากมายทั้ง Margin trading, Margin Call, Free Margins แล้ว Margin หรือมาร์จินที่ว่านี้มันคืออะไรกันแน่?

ก่อนอื่นต้องเข้าใจก่อนว่า การเทรด Forex เป็นการเทรดสัญญาส่วนต่างของราคา หรือที่เรียกว่า Contract for difference (CFDs) และใช้อัตราทดหรือ Leverage Ratios เพื่อทำกำไรได้แบบทวีคูณ หรือถ้าติดลบก็ติดลบแบบทบต้นทบดอกเช่นกัน อ่านบทความเพิ่มเติมเพื่อศึกษาว่า Leverage Ratios คือ อะไร

แล้วเงินที่ใช้เทรดเพื่อทวีคูณกำไรนั้นมาจากไหน?

มาจากโบรกเกอร์นั่นเอง ตามหลักการทั่วไปของการเทรด Forex คือ เราจะต้องวางเงินหลักประกันส่วนหนึ่ง เพื่อให้เราสามารถเทรดมูลค่าสัญญาที่สูงกว่าจำนวนเงินที่เรามีได้ และเงินที่ใช้เป็นหลักประกันนี้เองที่เรียกว่า Margin ดังนั้น

Margin คือ จำนวนเงินส่วนหนึ่งของเงินฝากที่ใช้เป็น “หลักประกัน” เพื่อเปิดคำสั่งเทรดกับโบรกเกอร์ 

โดยทั่วไป Margin Requirement จะเป็นเงื่อนไขกำหนดจำนวนเงินหลักประกันของโบรกเกอร์ แต่ละโบรกจะกำหนดเป็นค่าเปอร์เซ็นต์แตกต่างกันไป 

สมมติว่าคุณเปิดบัญชี Forex โดยมีค่า Leverage Ratio คือ 1:100 ในที่นี้ Margin ที่โบรกเกอร์กำหนดคือ 1% นั่นเอง แปลว่า ถ้าคุณอยากเทรดมูลค่าสัญญา $10,000 คุณจะต้องมีเงินวางไว้ 1% หรือ $100 เป็นเงินหลักประกันเพื่อเปิดคำสั่งเทรดกับโบรกเกอร์

Margin ที่กำหนด	Leverage สูงสุด
5.00%	1:20
3.00%	1:33
2.00%	1:50
1.00%	1:100
0.50%	1:200

จะเห็นได้ว่ายิ่งอัตราเลเวอเรจสูงเท่าไหร่ จะยิ่งอาศัย Margin น้อยลงเท่านั้น

Margin สำคัญยังไงใน Forex?

ข้างต้น เราได้อธิบายไปแล้วว่า Margin คืออะไร แต่เรายังอาจมีคำถามอยู่เวลาเทรดใน MetaTrader4 หรือ MetaTrader5 ว่าคำศัพท์ต่าง ๆ ที่เราเห็นในหน้าจอแอปเวลาเทรดนั้นมีคืออะไรกันแน่ เดี๋ยวเราจะมาอธิบายให้ทราบแต่ละคำกันเลย

ภาพด้านบนนี้ ด้านซ้ายมือที่ติดลบนี่เป็นแพลตฟอร์ม MT4 ส่วนขวามือคือ MT5 เราจะมาเริ่มอธิบายกันตั้งแต่ตัวแรกจากบนลงล่างกันก่อนเลย

Balance คือ ยอดเงินในบัญชีของคุณคือฝากเข้าไปในบัญชีเท่าไหร่ ยอดเงินจะมาปรากฏตรงนี้ และสะท้อนถึงยอดเงินบวกลบจากการเทรดที่เปิดหรือปิดไปเรียบร้อยแล้ว 

Equity คือ ยอดรวมจากการเทรดแบบ “ลอยตัว” (floating) ซึ่งคิดรวมผลบวกหรือลบของคำสั่งที่ยังเปิดไว้อยู่ ณ ขณะนั้น แปลว่า Equity จะบ่งบอกว่ามูลค่าของบัญชีคือเท่าไหร่ตามเวลาจริง โดยมีสูตรคำนวณดังนี้

Equity = ยอดเงินในบัญชี + เงินกำไร – เงินที่ขาดทุน – ค่าสเปรด (ค่าธรรมเนียมโบรกเกอร์)

Free Margin คืออะไร?

ยอดเงินหรือ Equity ที่เราสามารถใช้เปิดคำสั่งเทรดต่อไปได้ ถ้ามี Free Margin ไม่เพียงพอ เราก็จะไม่สามารถเปิดคำสั่งเทรดได้ค่ะ สิ่งที่ต้องทำก็คือเราอาจต้องลดขนาด Lot size หรือจะต้องปิดคำสั่งเทรดบางคำสั่ง เพื่อให้มี Free Margin มากพอให้สามารถเทรดต่อไปได้

Used Margin คืออะไร?

Used Margin คือ ยอดเงินจาก Equity ที่โบรกเกอร์กันเอาไว้เพื่อให้เราสามารถเปิดคำสั่งเทรดได้ หรือที่เรียกกันว่า หลักประกัน ในการรักษาพอร์ตของเราให้เทรดต่อไปได้ เราจะต้องรักษายอดเงินให้ไม่ต่ำไปกว่าระดับนี้ เพื่อที่จะได้ไม่ถูกบังคับปิดคำสั่งนั่นเอง

ดังนั้น ถ้าเราเอา Free Margin มาบวกกับ Used Margin เราจะได้ Equity นั่นเอง

Equity = Free/Usable Margin + Used Margin

Margin Call คืออะไร?

Margin Call คือ กลไกที่โบรกเกอร์ Forex กำหนดเพื่อแจ้งเตือนในกรณีที่ Equity ลดลงต่ำกว่าระดับ Used Margin หรือต่ำกว่าเงินหลักประกันที่เราวางไว้กับโบรกเกอร์ Margin Call จะเกิดขึ้นในเวลาที่เทรดผิดทางแล้วพอร์ตติดลบมาก ๆ จน Free Margin เหลือศูนย์ และมันก็เริ่มกระทบกับเงินหลักประกัน ซึ่งโบรกเกอร์จะแจ้งเตือนให้เราเติมเงินเข้าไปในบัญชีเพิ่ม ซึ่งถ้าเราไม่ได้เติม คำสั่งที่เปิดไว้ก็จะสามารถถูกบังคับปิดลงได้ (Stop Out)

Stop Out คืออะไร

Stop Out คือการบังคับปิดคำสั่งเทรดที่เราเปิดไว้ เพราะมันติดลบมากจนยอดเงิน (Equity) ลงมาต่ำกว่าระดับ Margin Call จนถึงระดับ Stop Out ที่โบรกเกอร์กำหนด สมมติว่าโบรกเกอร์ที่คุณใช้กำหนดระดับ Stop Out ที่ 20% ถ้าพอร์ตติดลบลงมาต่ำกว่าระดับนี้ โบรกก็จะบังคับปิดคำสั่งเทรดโดยเริ่มปิดเทรดไม้ที่ติดลบมากที่สุดก่อน และจะปิดไปจนกว่า Margin จะกลับมาอยู่สูงกว่าระดับ Stop Out นั่นเอง

ตัวอย่าง Margin Call และ Stop Out

สมมติว่าโบรกเกอร์ที่คุณใช้มีระดับ Margin Call ที่ 100% ตราบใดที่ค่าเปอร์เซ็นต์ Margin หรือ Margin Level ของคุณยังสูงกว่า 100% คุณก็จะสามารถเปิดเทรดได้ตามปกติ แต่ถ้าเมื่อใดก็ตามที่ Margin Level ลดลงมาต่ำกว่า 100% คุณจะไม่สามารถเปิดคำสั่งเทรดได้อีกต่อไป จะต้องรอให้พอร์ตกลับมาเป็นบวกและ Margin Level กลับขึ้นมาสูงกว่า 100% ก่อน หรือคุณอาจจะต้องปิดบางออเดอร์

ถ้าคุณเทรดในพอร์ตโดยมีเงินอยู่ $1,000 และเทรด 1 มินิล็อต โดยโบรกเกอร์กำหนดให้วางหลักประกันเป็นมาร์จินที่ $200 และถ้าพอร์ตของคุณติดลบไปเรื่อย ๆ จน Equity เริ่มต่ำกว่า $200 คุณจะได้รับอีเมลแจ้งเตือน Margin Call ให้เติมเงินหรือปิดคำสั่ง

แต่บางครั้งก็ไม่มีการแจ้งเตือนอะไร จนถ้าพอร์ตติดลบไปจนถึงระดับ Stop Out ที่โบรกเกอร์กำหนด ระบบก็จะเริ่มปิดเทรดให้คุณโดยอัตโนมัติเพื่อป้องกันมาร์จินของคุณนั่นเอง ซึ่งระดับ Stop Out ของโบรกเกอร์แต่ละเจ้าก็จะแตกต่างกันไป อาจจะอยู่ที่ 20%, 50% แล้วแต่

จากตัวอย่างเดิมคือ พอร์ตมีเงินอยู่ 1,000 เหรียญ โดยมีการวางมาร์จินไว้ที่ $200 ระดับ Stop Out ที่ 20% จะเท่ากับ 0.20 X 200 = $40 หรือถ้าโบรกเกอร์กำหนดที่ 50% ก็จะเท่ากับ 0.50 x 200 = $100 

ทำไมถึงล้างพอร์ต

เพราะว่าในความเป็นจริง หากตลาดผันผวนรุนแรง และราคาขยับไปหลาย Pip มาก ๆ เมื่อถึงระดับ Stop Out โบรกเกอร์จะเริ่มปิดจากไม้ที่ติดลบมากที่สุดก่อน และปิดไม้ต่อไปเรื่อย ๆ แต่ถ้าเราเปิดหลาย ๆ ไม้ จึงมีโอกาสสูงมากที่เงินที่ติดลบนั้นจริง ๆ มียอดรวมมากกว่า Equity ของเรา จึงเป็นสาเหตุให้เราเจอกับการล้างพอร์ตนั่นเอง 

ดังนั้น เรื่องการจัดการความเสี่ยง และการจัดการเงินจึงเป็นเรื่องสำคัญมาก ๆ ในการเทรด Forex รวมถึงตลาดอื่น ๆ ถ้าเราคำนวณได้ถูกต้อง เราก็จะได้ไม่ต้องมานั่งลุ้นหรือนั่งเสียใจภายหลัง การบริหารจัดการเงินที่ดี วาง Take Profit และ Stop Loss ที่เหมาะสม เข้าใจว่า Pip คืออะไรและคำนวณให้ดี ต่อให้พอร์ตติดลบ ราคาจะกระชากรุนแรงแค่ไหน เราก็จะมีภูมิคุ้มกันเป็นอย่างดี ไม่ต้องกลัว Margin Call, Stop Out หรือล้างพอร์ตเลย